EVER พร้อมเปิดพรีเซลล์โครงการใหม่ 29 - 30 มิ.ย. ดันผลประกอบการโตตามเป้า
>>
Hightlight
- บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ โครงการแนวราบ แบรนด์ “มายโฮม อเวนิว” และทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้”
- บริษัทเตรียมขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดโครงการใหม่ เอเวอร์ ซิตี้ รามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ Ever City Ramintra - Wongwaen Chatuchot มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท ซึ่งเป็นทาวน์โฮมราคา 2.7 – 3.7 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลในวันที่ 29 - 30 มิถุนายน 2562
- มียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน ( Backlog ) ประมาณ 2,600 ล้านบาท
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดโครงการใหม่ เอเวอร์ ซิตี้ รามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ Ever City Ramintra - Wongwaen Chatuchot มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท ซึ่งเป็นทาวน์โฮม ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ทาวน์โฮมที่ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว" ในราคา 2.7 – 3.7 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลในวันที่ 29 - 30 มิถุนายน 2562
โครงการรามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ เป็นโครงการทาวโฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน บนเนื้อที่โครงการประมาณ 17 ไร่ ในทำเลที่มีศักยภาพ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช (เอกมัย-รามอินทรา) ขณะที่เส้นทางรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-ลำลูกกา) และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน เช่น ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ,เซ็นทรัลลาดพร้าว ,คริสตัลพาร์ค เป็นต้น และโรงพยาบาล สถานศึกษา
“โครงการรามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ เป็นโครงการที่ EVER เปิดตัวในไตรมาส 2/2562 และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เพราะเป็นโครงการทาวน์โฮม เต็มไปด้วยความคุ้มค่าและตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัย เต็มไปด้วยความคุ้มค่า เฟอร์นิเจอร์ที่คิดและออกแบบมาอย่างลงตัว และยังเป็นโครงการที่มีพื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 110-145 ตร.ม.ต่อห้อง ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการท้ายสุดจากแผนในการขยายโครงการแนวราบของบริษัท จากแผนการเปิดโครงการทาวน์โฮม 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า2,000 ล้านบาทในปีนี้” นายสวิจักร์ กล่าว
บริษัทเร่งผลักดันสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโต โดยขยายโครงการแนวราบเพื่อบาลานซ์พอร์ต และยังเป็นการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าโน้มผลการดำเนินงานในปี 2562 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นปีที่เริ่มรับรู้รายได้จากการโอนโครงการต่างๆ ที่ลงทุน ทั้งจากโครงการแนวสูงและโครงการบ้านเดี่ยว รวมถึงทาวน์โฮม ที่ทยอยเปิดตัวในไตรมาส 1 ปีนี้ รวมทั้งยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) ในมือกว่า 2,600 ล้านบาท ที่จะสนับสนุนเพิ่มเติมด้วย
